band ra jan wan pen
Carabao
บางระจันคืนพระจันทร์งามเด่น
ฝนพร่างพรำฉ่ำเย็นเยี่ยมยุทธภูมิสงคราม
มีนายจันหนวดเขี้ยวระบือนาม
รวมพวกขึ้นทวงถามหาความเป็นไท
นิมนต์พระอาจารย์ธรรมโชติ
สละละทิ้งโบสถ์เป็นมิ่งขวัญกำลังใจ
หวังต่อกรทัพพม่าทั้งน้อยใหญ่
ที่ข่มเหงน้ำใจปล้นฆ่าเด็กผู้หญิง
บางระจันเขารวมกันเป็นหนึ่ง
มีตนเป็นที่พึ่งยอดนักสู้เมืองสิงห์
ทั้งเจ็ดครั้งรบพม่าจนล้มกลิ้ง
บางระจันเก่งจริงจึงต้องยิงด้วยปืน
เอาปืนใหญ่ยิงใส่กันตูมตาม
ปืนไทยแตกเหลือแต่ด้าม
เพราะเพิ่งหล่อเมื่อวานซืน
ก็กรุงศรีมิให้เขาหยิบยืมปืน
จึงมิอาจหยัดยืนรักษาค่ายบางระจัน
บางระจัน บางระจัน บางระจัน
มิอาจยืนอยู่ถึงวันเพ็ญเดือนสิบสอง
บางระจัน บางระจัน บางระจัน
มิอาจยืนอยู่ถึงวันเพ็ญเดือนสิบสอง
บางระจัน บางระจัน บางระจัน
มิอาจยืนอยู่ถึงวันเพ็ญเดือนสิบสอง
บางระจัน บางระจัน บางระจัน
มิอาจยืนอยู่ถึงวันเพ็ญเดือนสิบสอง
เพื่อผองเพื่อนกูจะสู้หลังชนฝา
เพื่อลูกเมียกูจะสู้สุดใจกล้า
เพื่อพี่น้องกูจะสู้สุดแรงล้า
เพื่อบ้านเมืองกูจะสู้จนสิ้นเลือดหยดสุดท้าย
เป็นปีจอคืนเดือนเจ็ดเผด็จศึก
ในหัวใจส่วนลึกถึงต้องตายไม่เสียใจ
เกิดมาสู้สมศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย
แม้รักษาไว้ไม่ได้แผ่นดินไทยหนนี้
อีกแปดเดือนต่อมายิ่งน่าเศร้า
พอหมดสิ้นลมหนาวไทยต้องเสียกรุงศรี
อยุธยาอันเป็นราชธานี
ในการศึกครั้งนี้มีอุทาหรณ์สอนใจ
บางระจัน บางระจัน บางระจัน
มิอาจยืนอยู่ถึงวันเพ็ญเดือนสิบสอง
บางระจัน บางระจัน บางระจัน
มิอาจยืนอยู่ถึงวันเพ็ญเดือนสิบสอง
บางระจัน บางระจัน บางระจัน
มิอาจยืนอยู่ถึงวันเพ็ญเดือนสิบสอง
บางระจัน บางระจัน บางระจัน
มิอาจยืนอยู่ถึงวันเพ็ญเดือนสิบสอง